งานวิจัยชี้NZ เสี่ยงขาดยาช่วยชีวิตหากโลกเกิดวิกฤต
- THAINZ

- 14 hours ago
- 1 min read
งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ใน The New Zealand Medical Journal ได้เปิดเผยถึงช่องโหว่ระดับสูงของนิวซีแลนด์ในการเข้าถึงยารักษาชีวิต (รวมถึงยาปฏิชีวนะและยาโรคหัวใจ) หากเกิดภัยพิบัติระดับโลก เช่น สงครามนิวเคลียร์ในซีกโลกเหนือ, โรคระบาด, หรือความขัดแย้งในภูมิภาคที่ทำให้การค้าหยุดชะงัก
ความเปราะบางที่สำคัญ
นบรรดายาที่ถูกสั่งจ่ายมากที่สุด 10 ชนิดในนิวซีแลนด์ (เช่น พาราเซตามอล, อะม็อกซี่ซิลลิน, แอสไพริน, ยาหอบหืด Salbutamol และยาสำหรับโรคหัวใจ) ไม่มีชนิดใดเลยที่สามารถผลิตได้ในประเทศ"
สาเหตุหลักคือการที่นิวซีแลนด์ไม่มีโรงกลั่นปิโตรเคมี ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตสารตั้งต้นหลักหลายชนิดของยาที่ทันสมัย
หากยาสำรองที่มีอยู่หมดลง จะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากโรคติดเชื้อ, โรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหอบหืด
นิวซีแลนด์ไม่เพียงแต่ขาดการกลั่นปิโตรเคมี แต่ยังขาดส่วนผสมและโครงสร้างพื้นฐานทางอุตสาหกรรมที่ซับซ้อน ในการสังเคราะห์ยาที่ทันสมัยในปริมาณมากด้วย
การผลิตยาสามัญ (Generic Medicines) ทั่วโลกได้ไปรวมศูนย์อยู่ที่ ไม่กี่ประเทศ เช่น จีนและอินเดีย (โดยยุโรปนำเข้าวัตถุดิบ 60-80% จากจีน และสหรัฐฯ ผลิตส่วนผสมยาเองได้น้อยมาก)
แนวทางเพิ่มความมั่นคงด้านยา
ผู้เชี่ยวชาญเสนอว่า แทนที่จะพยายามสร้างโรงงานที่มีต้นทุนสูงและซับซ้อนในภาวะวิกฤต แนวทางที่ดีที่สุดคือการวางแผนร่วมกันกับออสเตรเลีย ที่ยังคงมีการกลั่นปิโตรเคมี สามารถผลิตยาบางชนิดได้ และเป็นผู้ผลิต มอร์ฟีนถูกกฎหมายจากฝิ่นรายใหญ่ของโลก
รัฐบาลนิวซีแลนด์ควรสนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับการผลิตยาในออสเตรเลีย และช่วยให้มั่นใจว่าการค้าระหว่างประเทศจะยังดำเนินต่อไปได้หลังเกิดภัยพิบัติ โดยอาจใช้เชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตในประเทศเพื่อเดินเรือขนส่งสินค้าข้ามทะเลทาสมาน
การวิจัยนี้เตือนว่า นิวซีแลนด์เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติภายในประเทศ (เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด) ได้ดี แต่ภัยคุกคามที่ใหญ่กว่า นั่นคือการหยุดชะงักของอุปทานยาที่สำคัญ ซึ่งมักจะมาจากวิกฤตการณ์ภายนอกประเทศ
ข่าว RNZ https://tinyurl.com/3xms7jyx





