ED แน่นเริ่มท้อกับ รพ. NZเตรียมบินรักษาที่ 'ไทย'

เรื่องราวของ David ชายวัย 60 ปีจาก Northland ได้เผยให้เห็นภาพวิกฤตความแออัดของระบบสาธารณสุขอย่างชัดเจน เมื่อเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าถึงบริการฉุกเฉินขณะป่วยหนักจากการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

David มีไข้สูงและปวดรุนแรง แม้ GP จะสั่งยาปฏิชีวนะและกำชับให้โทรเรียกรถพยาบาลหากอาการไม่ดีขึ้น แต่เมื่อเขาโทร 111 เจ้าหน้าที่แจ้งว่า “ไม่มีรถพยาบาลว่าง” ทำให้เพื่อนต้องขับรถพาไปโรงพยาบาลเอง

เมื่อไปถึง North Shore Hospital พบว่าห้องฉุกเฉินมีผู้ป่วยรอกว่า 50 ราย เตียงเต็มจนไม่สามารถรับเขาเข้าไปได้ ทำให้ David ซึ่งไม่สามารถนั่งหรือยืนได้ ต้องตัดสินใจออกไปก่อน

เขาจึงไปบ้านเพื่อนใกล้โรงพยาบาลและโทร 111 อีกครั้งเพื่อหวังว่าจะถูกส่งต่อเข้าโรงพยาบาลอย่างเป็นทางการ

สองชั่วโมงต่อมา เจ้าหน้าที่พยาบาลฉุกเฉินมาถึงด้วยรถปฏิบัติการไม่ใช่รถพยาบาลเต็มรูปแบบ และตรวจพบว่าค่าพุ่งสูงถึง 197 (ค่าปกติ 5) จึงต้องทำการใส่สายสวนปัสสาวะอย่างเร่งด่วน ซึ่งเป็นกระบวนการที่เจ็บปวดอย่างมาก แต่ก็ยังไม่มีรถส่งโรงพยาบาล ทำให้เพื่อนต้องขับไปส่งอีกครั้ง

David ต้องพักรักษาในโรงพยาบาลรวม 4 คืน โดยคืนแรกนอนบนเปลในทางเดินของ ED และอีกสองคืนในห้องรับรองผู้ป่วยเนื่องจากไม่มีเตียงว่างในวอร์ด ความแออัดถึงขั้นที่ต้องเข็นเตียงหลบกันไปมาบนทางเดิน

แม้จะเจออุปสรรคหลายอย่าง แต่ David ยืนยันว่า “บุคลากรสาธารณสุขทำงานอย่างเต็มที่และเสียสละ”

เขาวิจารณ์คำพูดของรัฐมนตรีสาธารณสุข Simeon Brown ที่กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ “เอาการเมืองมานำหน้าผู้ป่วย” เนื่องจากการนัดหยุดงานใหญ่วันที่ 23 ต.ค. ว่าเป็นเรื่อง “ไร้สาระ” เพราะจากสิ่งที่เขาเห็น บุคลากรทำงานเต็มที่และประสานงานกันอย่างยอดเยี่ยม

ทาง Health NZ และ St John ออกมาขอโทษและยอมรับว่าความต้องการใช้บริการฉุกเฉินสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จนทำให้เกิดความล่าช้าในเคสที่ไม่อันตรายถึงชีวิตทันที

David ตัดสินใจว่าจะเดินทางไปประเทศไทยภายในปีนี้เพื่อปรึกษาแพทย์เฉพาะทางส่วนตัว เพราะไม่อยากเสี่ยงรอระบบอีกต่อไป

ข่าว: RNZ https://tinyurl.com/2fk7w4v3