ภาษี เงินออม ทางรอดสวัสดิการ
- THAINZ

- Jul 14
- 1 min read
อยากให้ภาษีที่จ่ายกลายเป็นเงินออมส่วนตัว แทนที่จะเข้ากระเป๋ารัฐบาล?
แนวคิดสุดล้ำจาก Sir Roger Douglas อดีตรัฐมนตรีคลัง และ ศาสตราจารย์ Robert MacCulloch จากมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์
ทำไมต้องเปลี่ยน?
ประชากรสูงวัยพุ่งสูง: ปี 2060 ชาวนิวซีแลนด์ 26% จะอายุเกิน 65 ปี ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการ เช่น สุขภาพและบำนาญ พุ่งกระฉูด
รัฐบาลเผชิญปัญหาการขาดดุลงบประมาณ และยังไม่มีแผนชัดเจนในการรับมือกับค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการในระยะยาว
ชาวกีวี่ส่วนใหญ่ไม่มีเงินออมเกษียณเพียงพอ ค่าเฉลี่ยบัญชี KiwiSaver มีแค่ $30,000 ในขณะที่ออสเตรเลียซึ่งมีระบบบำนาญภาคบังคับ มีค่าเฉลี่ยถึง $300,000
______________
แผนปฏิรูปสุดเจ๋งคืออะไร?
คนรายได้ไม่เกิน $60,000ต่อปี จะไม่ต้องจ่ายภาษี แต่เงินส่วนนี้จะถูกโอนเข้าบัญชีออม แบ่งเป็น:
ค่ารักษาพยาบาล: $9,450 ต่อปี
เงินบำนาญ: $7,350 ต่อปี
ค่าคุ้มครองความเสี่ยง: $4,200 ต่อปี
คนรายได้เกิน $60,000 จะยังต้องเสียภาษีเพื่อสนับสนุนระบบสวัสดิการสาธารณะ
ให้คนมีทางเลือก ว่าจะใช้บริการรัฐหรือเอกชน คล้ายระบบของฝรั่งเศส (ไม่ใช่แบบสหรัฐฯ ที่คนจนถูกทอดทิ้ง)
______________
แผนปรับนโยบายเพื่อความยั่งยืน:
ค่อยๆ ปรับอายุเกษียณเป็น 70 ปี ใน 20 ปี
ลดภาษีเพื่อให้บริษัทช่วยทบเงินออมให้พนักงาน
ยกเลิกงบประมาณที่ไม่จำเป็น เช่น:
✘ เงินอุดหนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์
✘ เงินช่วยค่าน้ำ-ค่าไฟให้ครัวเรือนที่มีฐานะดี
✘ สิทธิพิเศษทางภาษีของเจ้าของบ้านเช่า
✘ เงินช่วยเหลือภาคป่าไม้ ประมง และม้าแข่ง
งบพวกนี้ควรถูกนำมาช่วยเหลือผู้ที่ป่วยเรื้อรังและผู้มีรายได้น้อยให้มีเงินออมเพิ่มขึ้น
______________
ศาสตราจารย์ MacCulloch เตือนว่า ถ้าไม่ปฏิรูป ระบบสวัสดิการของนิวซีแลนด์อาจเผชิญ “วิกฤตแบบช้าๆ” งบประมาณจะขาดดุลต่อเนื่อง และระบบสุขภาพอาจทรุดโทรม
เขายกตัวอย่างออสเตรเลียที่ใช้ระบบบังคับออมเพื่อเกษียณตั้งแต่ปี 2000 ทำให้ประชาชนมีเงินออมมากกว่านิวซีแลนด์ถึง 10 เท่า ด้วยพลังที่เรียกว่า "ดอกเบี้ยทบต้น"
ถึงแม้แนวคิดนี้จะน่าสนใจ แต่การเมืองยังไม่ให้ความสนใจมากนัก MacCulloch ยอมรับว่าเขา “ยอมแพ้” กับการโน้มน้าวรัฐบาลแล้ว ไม่ว่าชุดไหนก็ตาม
แต่เตือนว่า ถ้าไม่ทำอะไรเลย นิวซีแลนด์อาจเผชิญปัญหาใหญ่ในอนาคต
______________
ข่าว: RNZ https://tinyurl.com/yj3ycpph
แปล เรียบเรียง: THAI NZ





