คลินิก GPเปลี่ยนเป็นองค์กรธุรกิจคนไข้เป็นแค่ รายได้?

คนไข้กังวลคลินิก GP แบบ “บริษัทถือหุ้น” เพิ่มขึ้น หมอเปลี่ยนบ่อย ทำให้ความต่อเนื่องหาย

คลินิกหมอประจำตัว (GP) ที่เคยบริหารโดยแพทย์เจ้าของกิจการ กำลังทยอยถูกซื้อโดยบริษัทใหญ่ เช่น Green Cross และ Tend ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็น “รายได้” มากกว่า “คนไข้”

ประสบการณ์จริงจากผู้ป่วย

• Annette (Lower Hutt) และสามีมีโรคประจำตัว แต่ไม่มีหมอประจำตัว ต้องอธิบายประวัติซ้ำทุกครั้ง เธอบอกว่า “ตอนนี้เราไม่ใช่คนไข้ แต่เป็นรายได้ 15 นาทีต่อคน”

• Georgie (Christchurch) ต้องพาลูกชายออทิสติกอายุ 11 ปี ไปพบหมอออนไลน์ผ่านหน้าจอทีวี กับหมอที่อยู่ Wellington ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน เดิมเคยมี GP คนเดิมประจำ แต่หลังคลินิกถูกซื้อโดย Tend ก็กลายเป็นเจอหมอคนใหม่ทุกครั้ง

แนวโน้มระบบกำลังเปลี่ยน

• จำนวนแพทย์ที่ทำงานในคลินิกที่แพทย์เป็นเจ้าของเอง ลดลง จาก 73% ในปี 2015 เหลือ 64% ในปี 2022

• ขณะที่จำนวนแพทย์ที่ทำงานในคลินิกที่เป็นขององค์กร เพิ่มขึ้นเท่าตัว เป็น 14% ในช่วงเวลาเดียวกัน

• อดีตหัวหน้าสหภาพแพทย์อาวุโส วิจารณ์ว่า แรงผลักดันในการทำกำไรให้ผู้ถือหุ้นอาจสร้าง "แรงจูงใจที่ผิดเพี้ยน" เช่น การลดเวลาปรึกษาเพื่อเพิ่มจำนวนผู้ป่วย

GP เจ้าของกิจการหลายแห่งเริ่มอยู่ไม่ได้

• หนึ่งในสี่ ของคลินิก GP รายงานว่าสถานะการเงิน “แย่ลง”

• 18% ขาดทุน

• บางแห่ง หาคนซื้อกิจการไม่ได้ ต้องปิดถาวร

• ผลกระทบสำคัญคือ “ความต่อเนื่องในการดูแล” (Continuity of Care) หายไป ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงการรักษาแต่เนิ่น ๆ และลดการเข้าโรงพยาบาล

Green Cross และ Tend ยืนยันว่า ไม่ได้ลดคุณภาพหรือเร่งเวลา

• ชี้ว่า สามารถใช้ทีมงานสหสาขาวิชาชีพ (เช่น พาราเมดิก หรือ พยาบาลผู้สั่งยา) เพื่อให้ความต่อเนื่องในการดูแลได้เมื่อ GP หลักไม่ว่าง

• Tend ระบุว่าคะแนนความพอใจจากคนไข้ สูงถึง 95% และยืนยันว่าควรตัดสินองค์กรเหล่านี้จาก "ผลลัพธ์"

• Health NZ รับทราบถึงความกังวลเรื่องการเพิ่มค่าธรรมเนียมของคลินิก และกำลังทำงานเพื่อเสริมสร้างการดูแลสุขภาพปฐมภูมิ โดยมุ่งเป้าที่จะให้คนมากกว่า 80% สามารถเข้าพบผู้ให้บริการดูแลสุขภาพปฐมภูมิได้ โดยรอไม่เกินหนึ่งสัปดาห์

______________

 ข่าว: RNZ https://tinyurl.com/3rbw8wnh