ข้อมูลเกี่ยวกับ Daylight Saving

เวลาออมแสง หรือ Daylight Saving ในนิวซีแลนด์กำลังจะหมดลง ทำให้หลายคนได้นอนหลับเพิ่มอีก 1 ชั่วโมง โดยในนิวซีแลนด์จะสิ้นสุดทุกปีในเวลาตี 3 ของวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 7 เมษายน

ซึ่งหมายความว่านาฬิกาจะถูกปรับกลับจาก 3 นาฬิกาเช้าเป็น 2 นาฬิกาเช้า ทำให้ทุกคนมีเวลาในการนอนเพิ่มอีก 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ของ Daylight Saving

คือการใช้ประโยชน์สูงสุดจากช่วงเวลากลางวันในช่วงเย็นของฤดูร้อน ช่วยให้มีแสงสว่างเพิ่มเติมในตอนท้ายของวันสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง การปฏิบัตินนี้ขึ้นอยู่กับความเอียงของโลก ซึ่งส่งผลต่อปริมาณแสงแดดที่เราได้รับตลอดทั้งปี โดยการปรับนาฬิกาไปข้างหน้าในช่วง spring และฤดูร้อน เราสามารถใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับการปรับเวลาโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จะอัพเดทเวลาโดยอัตโนมัติตามสถานที่และโซนเวลาของคุณ สำหรับอุปกรณ์ Android คุณสามารถเปิดใช้งานการอัพเดทโซนเวลาอัตโนมัติได้ในตั้งค่านาฬิกา เช่นเดียวกัน iPhone และโทรศัพท์ Samsung ก็มีการตั้งค่าเพื่อเปิดใช้งานการปรับเวลอัตโนมัติ

นิวซีแลนด์เริ่มใช้เวลาประหยัดแสงวันเป็นครั้งแรกในปี 1927

แม้ว่าวันและระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงเวลาจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามปี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เวลาออมแสงวันถูกขยายออกไปทั้งปีเพื่อประหยัดพลังงาน ต่อมาได้กลายเป็นมาตรฐานปฏิบัติ โดยมีกำหนดการปัจจุบัน (ตั้งแต่วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนกันยายนถึงวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน) เริ่มตั้งแต่ปี 2007

Daylight Saving ไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติทั่วโลก

ประมาณสองในสามของประเทศทั่วโลกไม่ได้มีการเปลี่ยนนาฬิกาตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม ในยุโรปถือเป็นเรื่องปกติ โดยมี 37 จาก 44 ประเทศที่ใช้ Daylight Saving ในทำนองเดียวกัน บางส่วนของอเมริกาเหนือ ละตินอเมริกา และออสเตรเลีย ก็ใช้เช่นกัน

คนที่ต้องทำงานในช่วงเวลานี้

พระราชบัญญัติเวลา (Time Act) ปี 1974 ของนิวซีแลนด์ กำหนดให้มีการชดเชยค่าแรงแก่พนักงานสำหรับชั่วโมงที่ทำงานระหว่างการเปลี่ยนเวลา ตัวอย่างเช่น หากกะของคุณตรงกับช่วงที่นาฬิกาถอยหลัง 1 ชั่วโมง คุณมีสิทธิ์ที่จะได้รับค่าตอบแทนสำหรับชั่วโมงพิเศษที่ทำงานนั้น

Daylight Saving ยังเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการตรวจสอบความปลอดภัยประจำวัน

เช่น การทดสอบแบตเตอรี่ในเครื่องตรวจจับควัน และตรวจสอบว่าหมดอายุการใช้งานหรือไม่ ข้อควรระวังนี้ช่วยรักษาความปลอดภัยภายในบ้านและป้องกันสัญญาณเตือนภัยปลอมเนื่องจากฝุ่นละอองที่สะสม

โดยสรุป Daylight Saving ในนิวซีแลนด์จะสิ้นสุดในวันที่ 7 เมษายน เวลาตี 3 โดยปรับนาฬิกากลับเป็นตี 2 ประเพณีนี้มีจุดประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากแสงแดดในช่วงเดือนที่อากาศร้อน และมีการปฏิบัติในรูปแบบต่างๆ มาตั้งแต่ปี 1927 ผู้ใช้สมาร์ทโฟนโดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องปรับนาฬิกาด้วยตนเอง เนื่องจากมีการอัพเดทโซนเวลาอัตโนมัติ และพนักงานมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยสำหรับกะที่ตรงกับช่วงเวลาที่เปลี่ยน

ที่มา https://www.rnz.co.nz/news/national/513467/daylight-saving-when-it-ends-why-we-observe-it-and-how-to-change-the-time-on-your-phone