top of page

ดินแดนไร้การประท้วง สู่ยุคแรงงานลุกฮือ

  • Writer: THAINZ
    THAINZ
  • Oct 16
  • 1 min read

นิวซีแลนด์ซึ่งเคยถูกยกให้เป็น “ต้นแบบแห่งความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง” กำลังเผชิญกระแสการประท้วงหยุดงานที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมแรงงานตลอดศตวรรษที่ผ่านมา


การหยุดงานที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า (23 ตุลาคม) อาจกลายเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของประเทศ โดยนักข่าวอาวุโสของ The Post ชื่อ Anna Whyte เรียกการประท้วงนี้ว่า "MEGA Strike"


ห้องเรียนทั่วนิวซีแลนด์จะว่างเปล่า และวอร์ดโรงพยาบาลจะเงียบงัน เมื่อคาดว่าครูและบุคลากรทางการแพทย์ราว 100,000 คน จะพร้อมใจกันหยุดงานอีกครั้ง


กลุ่มผู้ประท้วงหลัก:

  • พยาบาลกว่า 36,000 คน

  • บุคลากรสาธารณสุขอีกกว่า 11,500 คน

  • ครู อีกราว 40,000 คน


 กลุ่มผู้ประท้วงต้องการ

  •  การมีจำนวนเจ้าหน้าที่ที่เหมาะสม

  •  ค่าตอบแทนและสภาพการทำงานที่ดีขึ้น

  •  รวมถึงความเคารพและการยอมรับที่มากขึ้น


 การประท้วงเกิดขึ้นท่ามกลางความไม่พอใจที่สั่งสมมานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง ค่าครองชีพ และ ภาวะเงินเฟ้อ ที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ส่วนตัวของบุคลากร


ปีนี้ประเทศมีการหยุดงานอย่างเป็นทางการอย่างน้อย 22 ครั้ง และยังมีอีกหลายกรณีที่เป็นการหยุดงานแบบต่อเนื่องหรือไม่ได้รายงาน ซึ่งทำให้บริการสาธารณะชะลอตัวลง


ผลกระทบเกิดขึ้นทั่วนิวซีแลนด์ การผ่าตัดที่ไม่เร่งด่วนต้องเลื่อนออกไป ผู้ปกครองต้องจัดการดูแลลูกระหว่างโรงเรียนปิด และผู้โดยสารหลายคนต้องหาทางเดินทางอื่นแทน

_________________


นิวซีแลนด์เคยถูกขนานนามว่า “ดินแดนไร้การประท้วง (the land without strikes)” และเคยเป็นประเทศต้นแบบด้านความสัมพันธ์แรงงานของโลก

..

จุดเริ่มต้นย้อนกลับไปถึงทศวรรษ 1890 เมื่อสหภาพแรงงานเริ่มมีอิทธิพล จนรัฐบาลต้องออก พระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยและอนุญาโตตุลาการทางอุตสาหกรรม ค.ศ. 1894 (Industrial Conciliation and Arbitration Act 1894) ซึ่งถือเป็นกฎหมายบุกเบิกระดับโลก


ภายใต้ระบบนี้ การประท้วงแทบไม่เกิดขึ้น เพราะแรงงานและนายจ้างต้องส่งข้อพิพาทเข้าสู่ศาลอนุญาโตตุลาการ และยอมรับคำตัดสินที่มีผลผูกพันทั้งสองฝ่าย

_________________


แต่เมื่อเวลาผ่านไป สหภาพแรงงานบางกลุ่มเริ่มไม่พอใจกระบวนการอนุญาโตตุลาการ เพราะเชื่อว่าสามารถได้ข้อตกลงที่ดีกว่าด้วยการหยุดงานเอง


  • ปี 1912 คนงานเหมืองเมืองไวฮี (Waihi) หยุดงาน และเกิดความรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต

  • ปีถัดมา คนงานท่าเรือและเหมืองกว่า 16,000 คน หยุดงานนานถึงหกสัปดาห์

  • ต่อมา ช่วงสงครามและเศรษฐกิจตกต่ำทำให้การประท้วงลดลง แต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหภาพแรงงานกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง

  • และในปี 1951 เกิด “การประท้วงท่าเรือ” ซึ่งถือว่าโด่งดังและยืดเยื้อที่สุดในประวัติศาสตร์นิวซีแลนด์ กินเวลาถึง 151 วัน และมีคนงานกว่า 22,000 คน เข้าร่วม

  • ปี 1979 เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในเชิงจำนวน โดยมีแรงงานกว่า 300,000 คน ร่วมในสิ่งที่มอร์ริสเรียกว่า “การประท้วงระดับชาติครั้งเดียวของนิวซีแลนด์”

..


ข้ามมาเกือบ 50 ปี [จากเหตุการณ์ประท้วงใหญ่ครั้งก่อน] ปี 2025 อาจถูกจารึกไว้ว่าเป็นปีที่นิวซีแลนด์หยุดเดิน และเป็นช่วงเวลาที่แรงงานรุ่นใหม่ได้ตระหนักถึงพลังของการนัดหยุดงานพร้อมกัน

_________________

 ข่าว: RNZ https://tinyurl.com/yc7u3nhy

 สรุปเรียบเรียง: thainz.co.nz


© Thai NZ News.   All rights reserved.

bottom of page